จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ / สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ / 07
กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ
กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงพรรณไม้ที่มีความโดดเด่น พรรณไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ จากหลากหลายระบบนิเวศ จัดแสดงไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี พร้อมกับชมนาฬิกาดอกไม้เรืองแสงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร มีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับสีสันสดใสตามฤดูกาลภายในหน้าปัดของนาฬิกา จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจเมื่อเดินทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้
- เรือนป่าดิบชื้น (Tropical Rainforests) เป็นโรงเรือนที่ใหญ่ที่สุด ที่จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ในป่าดิบชื้น พืชเฉพาะถิ่นและพืชหายากทางภาคใต้ อาทิ เถาใบสีทอง ปาล์มเจ้าเมืองตรัง ปาล์มเจ้าเมืองถลาง ปาล์มบังสูรย์ กะทือพิลาส หมากแดง กล้วยศรีนรา และดาหลาขาว ภายในโรงเรือนมีการสร้างบรรยากาศให้มีความชุ่มชื้นสูงด้วยระบบไอน้ำพ่นฝอยอัตโนมัติ เพื่อให้ภายในโรงเรือนมีความชื้นทั่วถึง ทุกจุด นอกจากนี้ยังมีการปรับภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามด้วยน้ำตกและถ้ำมีทางเดินยกระดับสามารถเดินชมเรือนยอดพรรณไม้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามของเรือนยอดพืชจากมุมสูงอย่างทั่วถึง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสัมผัสกับธรรมชาติในเรือนแห่งนี้
- เรือนไม้น้ำ (Water Plants) ภายในมีการจัดแสดงไม้น้ำ ทั้งพันธุ์บัวของไทย และจากต่างประเทศ อาทิ บัวหลวง บัวสาย และบัวกระด้ง บัวมีหนามที่มีลักษณะใบใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งการจัดตกแต่งเสริมด้วยพรรณไม้น้ำ ไม้ชุ่มน้ำชนิดต่าง ๆ อาทิ กกอียิปต์ กกลังกา กระจูด พลับพลึงดอกขาว
- เรือนกล้วยไม้และเฟิน (Orchids and Ferns) ภายในมีการจัดแสดงกล้วยไม้และเฟิน โดยจัดปลูกกล้วยไม้ไทยและกล้วยไม้ลูกผสมตลอดทั้งปี เช่น ว่านเพชรหึงหรือว่านหางช้าง กล้วยไม้ที่มี ลำต้นใหญ่ที่สุดในโลก วนิลา กล้วยไม้ที่มีลำต้นยาวที่สุดในโลก ฝักมีกลิ่นหอม ใช้ทำขนมหรือไอศกรีม และกล้วยไม้ลูกผสมหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ กล้วยไม้ลูกผสมสกุลหวาย (Dendrobium sp.) สกุลแวนด้า (Vanda sp.) สกุลอิพิเดนดรัม (Epidendrum sp.) เสริมพื้นล่างด้วยเฟินนานาชนิด อาทิ เฟินกีบแรด เฟินแม่ลูกอ่อน เฟินก้านดำ เฟินชายผ้าสีดา อีกทั้งและเพิ่มความหลากหลายด้วยการจัดภูมิทัศน์เลียนแบบธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมกับบรรยากาศที่เย็นสบายภายในโรงเรือนนี้
- เรือนพืชทนแล้ง (Arid Plants) เป็นความมหัศจรรย์ของพืชที่มีการปรับตัวให้สามารถ อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้ ประกอบด้วยพืชกลุ่มกระบองเพชร พืชอวบน้ำ ด้วยลักษณะของพืชทนแล้งที่มีรูปร่างแปลกตา ดอกกระบองเพชรหลากหลายสีสัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพใช้เวลาอยู่ภายในเรือนนี้เป็นเวลานาน เพื่อเก็บภาพประทับใจ อาทิ ถังทองหรือเก้าอี้แม่ยาย กระบองเพชรจากทวีปอเมริกา ลำต้นกลม ขนาดใหญ่ ดอกสีเหลือง เฒ่าหัวหงอก กระบองเพชร ที่มีขนสีขาวยาว มองคล้ายผมของผู้เฒ่า ปีศาจทะเลทราย พืชโบราณ พบในเฉพาะประเทศนามิเบีย ทวีปอัฟริกาเท่านั้น ใบสีเขียวยาว ปลายใบ แห้งม้วนงอ นอกจากนี้ยังมีพืชอวบน้ำต่างๆ อาทิ กุหลาบหิน ว่านหางจระเข้ และป่านศรนารายณ์ ชนิดต่างๆ และพืชที่หาดูได้ยากจากเกาะมาดากัสการ์
- เรือนพืชกินแมลง (Carnivorous Plants) จัดแสดงพืชกินแมลง พืชที่มีการปรับตัว ให้อยู่รอด โดยมีการเปลี่ยนแปลงส่วนของใบ เพื่อดักจับแมลง อาทิ หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชกินแมลง ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนที่คล้ายหม้อสำหรับดักจับแมลง หยาดน้ำค้าง พืชกินแมลง ที่มีเมือกเหนียวคล้ายหยดน้ำสำหรับดักจับแมลง กาบหอยแครง และกระบอกจอกสูง พืชกินแมลงจากทวีปอเมริกา
- เรือนพืชสมุนไพร (Medicinal plants) จัดแสดงพืชสมุนไพรไทย กว่า 150 ชนิด มีป้ายสื่อความหมายบอกชื่อของสมุนไพรและบอกสรรพคุณของพืชสมุนไพรชนิดนั้นๆ อาทิ ฟ้าทะลายโจร หญ้าหนวดแมว หนุมานนั่งแทน ย่านาง เล็บครุฑ จิงจูฉ่าย เป็นต้น
- เรือนสับปะรดสี (Bromeliads) รวบรวมพืชกลุ่มสับปะรดสีหลากหลายสายพันธุ์ สับปะรดสีเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา เป็นพืชกลุ่มเดียวกับสับปะรด แต่ไม่ค่อยติดผล ลักษณะของใบมีลวดลายและมีสีสันที่สวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นพืชประดับสำหรับจัดตกแต่งสวน ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการแยกหน่อ
- เรือนพฤกษศาสตร์พื้นบ้าน (Ethnobotany) เป็นเรือนที่จัดแสดงตัวอย่างภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านการใช้ประโยชน์จากพืชที่เด่น โดยเฉพาะสมุนไพรและพืชผักพื้นบ้านจาก 5 กลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคเหนือ ได้แก่ ม้ง ไทใหญ่ ลัวะ กะเหรี่ยงและไท-ยวน
- เรือนไม้ใบ (Foliage Plants) เป็นเรือนที่รวบรวมและจัดแสดงพืชที่มีความโดดเด่นและความแปลกของใบทั้งรูปทรง ลวดลาย สีสันที่สวยงามแปลกตา นิยมนำไปจัดประดับตกแต่งอาคารสถานที่ บ้านเรือน เพื่อความสวยงาม ภายในเรือนมีพรรณไม้โดดเด่น อาทิ ส้มกุ้ง บอนชนิดต่างๆ และไม้ประดับที่สามารถปลูกในร่มได้
Glasshouse Complex is one of the most interesting spots of Queen Sirikit Botanic Garden. It comprises of many conservation glasshouses for plant collections. Glasshouse Complex displays a collection of the rare plants, endemic species of Thailand and plants from other countries. Tropical Rainforest House is the largest conservatory House displaying rare plants and endemic species from the south of Thailand and Southeast Asia, such as Palm, Ginger family, and Bananas. This house has an artificial waterfall and cave, and the temperature and the humidity in this house are automatically controlled. Arids Plant House features dessert dwelling plants such as Cacti from regions of America, Succulents plants, such as Aloe, Agave and Euphobia species from regions of Africa. Moreover, Orchids and Ferns House features native and hybrid orchids, and collection of various fern species. Water Plants House, showcases plants which grow at the edge of river, lakes, ponds and marshes such as Lotus, Waterlily, Pandan and water plants. A highlight is the Giant Waterlily, which has extra-large leaves and originates from South America. Lotus and Waterlily House has various species of Lotus and Waterlily from Thailand and other countries. Medicinal Plants House collects the Herbal Plants of Thailand and the knowledge of Plants. There is also the Carnivorous Plants, which are basically insect eating plants, such as Pitcher plants, Sun Dew, Venus flytrap and Butterwort.