ประวัติความเป็นมา
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ม.8 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ดำเนินการ 1,582 ไร่ ในอดีตบริเวณพื้นที่ตั้ง สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ เคยเป็นสมรภูมิรบโดยการรบครั้งนั้นทหารไทย และลาวมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่เกิดจากการสู้รบ นั่นคือ "หลุมบังเกอร์" ที่พบอยู่ในบริเวณพื้นที่นี้
ซึ่งการรบครั้งนั้นถูกเรียกว่า "สมรภูมิรบบ้านร่มเกล้า" ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2542 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร การดำเนินงานของโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก จึงทรงมีพระราชดำริให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์
สำนักนายกรัฐมนตรี (ในสมัยนั้น) จัดตั้งศูนย์รวมพรรณไม้บ้านร่มเกล้า ในพระราชดำริฯ ในพื้นที่ส่วนปลายของเทือกเขาภูสอยดาว ณ บริเวณป่าบ้านร่มเกล้า ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ให้มีลักษณะเช่นเดียวกับสวนพฤกษศาสตร์ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงภายในประเทศ และเป็นการอนุรักษ์ป่าที่สมบูรณ์ไว้เพื่อเป็นป่าต้นน้ำลำธาร รวมทั้งสนับสนุนราษฎรบ้านร่มเกล้าและหมู่บ้านข้างเคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาสถานที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก
ซึ่งต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ โดยมีเป้าหมายในการเป็นแหล่งอนุรักษ์พืชพื้นที่สูง แหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ของภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในการบริหารจัดการเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน มีภารกิจในการออกสำรวจและรวบรวมพืชหายาก พืชประจำถิ่น และพืชเสี่ยงสูญพันธุ์ สำหรับการอนุรักษ์นอกถิ่นอาศัย รวมถึงนำมาเพาะขยายเพิ่มจำนวน สำหรับการปล่อยคืนสู่พื้นที่อาศัยเดิม และเผยแพร่ความรู้โดยการจัดค่ายฝึกอบรมทางพฤกษศาสตร์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การขยายพันธุ์กล้วยไม้ การเก็บตัวอย่างพรรณไม้ สำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ท่ามกลางขุนเขาแมกไม้สายหมอก ที่มีความหลากหลายของพรรณพืช มีโรงเรือนจัดแสดงกล้วยไม้ รวบรวมกล้วยไม้ไทยกว่า 300 ชนิด เช่น ว่านเพชรหึง กล้วยไม้ดง รวมทั้งกล้วยไม้ต่างประเทศ เช่น เพชรหึงฟิลิปปินส์ และกล้วยไม้ลูกผสมต่างๆ โรงเรือนกุหลาบพันปีและพืชกลุ่มเฟิน พืชวงศ์กุหลาบ สร้อยสยาม พืชถิ่นเดียวของจังหวัดพิษณุโลก และพืชในท้องถิ่น อาทิ ค้อ ระฆังทอง พันธุ์ไม้ตระกูลปีบที่อวดดอกสีเหลืองสวยงามตลอดทั้งปีรวมทั้งสวนกุหลาบและแมกโนเลีย นอกจากนี้ในพื้นที่สวนฯ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ลานกิจกรรม และห้องน้ำให้บริการ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาสัมผัสธรรมชาติและชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดทั้งปี ฤดูร้อนจะพบกล้วยไม้เขตร้อน กุหลาบพันปี จำปี-จำปา และกระดังงาชนิดต่างๆ ฤดูฝนจะได้ความเขียวขจี กระเจียวชนิดต่างๆ และทะเลหมอก ส่วนฤดูหนาวจะได้สัมผัสอากาศหนาว ดูดาว ชมความงามกล้วยไม้เขตหนาว สวนกุหลาบ และสร้อยสยาม
ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาและหุบเขาลอนลาด มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 750-1,280 ม. มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27 องศาเซลเซียส
ซึ่งเหมาะกับพันธุ์ไม้ที่ชอบอากาศเย็น และเหมาะสำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศ กางเต็นท์บนยอดดอยสูงที่แวดล้อมด้วยป่าเขา ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่วางสลับซับซ้อนอย่างสวยงาม และมีทะเลหมอกปกคลุม โอบกอดทั่วบริเวณสวยงามราวกับภาพวาด
จุดเด่นและพรรณไม้ที่น่าสนใจ
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ได้รวบรวมพันธุ์ไม้เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม อาทิ
วิสัยทัศน์ (Vision)
มุ่งสู่มาตรฐานสวนพฤกษศาสตร์ภูมิภาคอันดับหนึ่งของประเทศ
พันธกิจ (Mission)
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้บริการสารสนเทศเพื่อการบริหารองค์กร ซึ่งมีลิงค์ต่างๆที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศภายในองค์กร
Moreองค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้บริการเว็บบอร์ดแก่ประชาชน
บุคคลภายนอกองค์กรเพื่อเป็นประโยชน์ด้านบริการถาม-ตอบเกี่ยวกับองค์กร
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้บริการด้าน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกค์ของราชการ
เพื่อบริการประชาชน